ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม การออกกำลังกายด้วยจักรยานเป็นวิธีสนุก

ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม การออกกำลังกายด้วยจักรยานเป็นวิธีสนุกและสร้างสุขภาพที่ดีพร้อมกับการได้เดินทางสัมผัสประสบการณ์กลางแจ้งอย่างเพลิดเพลิน และเมื่อปั่นอย่างจริงจังก็จะช่วยให้หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น การปั่นจักรยาน 1 ชั่วโมงช่วยให้คุณสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 Kcal อีกทั้งจักรยานก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกขับตามความชอบและถนัดของแต่ละคน

แต่ยังมีบางสิ่งที่นักปั่นพึ่งรู้ไว้เพื่อนำไปใช้และปรับปรุงพฤติกรรมการขี่จักรยานให้มีความปลอดภัยและรู้สึกสบายทุกครั้งที่ขึ้นคร่อมแล้วออกไปปั่น

1. สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง

• ในสหรัฐอเมริกามีนักปั่นจักรยานได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ศีรษะมากกว่า 6,000 คนต่อปี
• 75% ที่ได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิตนั้นมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
• 90% ของนักปั่นที่ได้รับอุบัติเหตุปลอดภัยเพราะสวมหมวกกันน็อคอย่างถูกต้อง

นอกจากว่าคุณต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ออกไปปั่นจักรยานแล้ว จะต้องเลือกหมวกที่ผลิตได้มาตรฐาน มอก. หรือได้มาตรฐานความปลอดภัยในต่างประเทศ หมวกที่สวยงามหรือของก็อปราคาถูกก็อาจจะไม่สามารถช่วยให้คุณปลอดภัยได้ยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน และเลือกสีของหมวกที่เป็นโทนสีสว่าง มีขนาดที่พอดีกับศีรษะผู้ใส่ และเวลาสวมก็ปรับสายรัดให้กระชับ

 2. เลือกขนาดของจักรยานให้เหมาะกับตัวเอง

เวลาเลือกจักรยานใหม่ สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องความสวย, ชุดเกียร์ หรือน้ำหนักของรถ แต่เป็นเรื่องของขนาดเฟรมที่เหมาะกับตัวของคุณเอง สำหรับเสือหมอบให้ลองยืนคร่อมจักรยานแล้วให้มีระยะห่างระหว่างขาหนีบกับท่อนอนประมาณ 1-2 นิ้ว ส่วนเสือภูเขาให้มีระยะห่างน้อยที่สุด 2 นิ้ว ส่วนตำแหน่งของแฮนด์ความอยู่ต่ำกว่าอานประมาณ 1 นิ้ว

สำหรับการซื้อจักรยานจากร้านหรือตัวแทนจำหน่ายจะมีบริการ fitting ขั้นเบื้องต้นให้กับผู้ซื้อ ซึ่งจักรยานที่มีขนาดเหมาะกับผู้ขี่จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากการขี่ได้

3. เลือกใช้อานและปรับตำแหน่งให้ถูกต้อง

อานหรือเบาะจักรยานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งควรเลือกให้เหมาะกับสรีระของนักปั่น อานแบบเจลหรือแบบหนังแกะจะช่วยลดการเสียดสีได้ ตำแหน่งความสูงของอานก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ควรให้อานสูงในระดับที่เมื่อยืนขึ้นขี่แล้วขาข้างที่ปั่นลงนั้นเหยียดเกือบตรงและงอเพียงเล็กน้อย หากจังหวะปั่นสุดขาแล้วหัวเข่างอมากแปลว่าเบาะที่นั่งคุณปรับเตี้ยเกินไป ซึ่งมีผลต่อการส่งกำลังในการปั่นและความเมื้อยล้าในการออกแรง

4. เริ่มปั่นอย่างช้าๆ อย่าหักโหม

สำหรับผู้ที่เริ่มหัดขับจักรยาน ในระยะแรกให้ปั่นด้วยความเร็วที่ไม่มากนักแต่รักษาระดับเอาไว้ให้ ขี่เป็นเวลาครั้งละ 30 นาที ทำอย่างนี้เป็นเวลาประมาณซัก 3-4 อาทิตย์ โดยเลือกเส้นทางที่เป็นทางเรียบ เมื่อผ่านไปซักพักค่อยเริ่มปั่นในเส้นทางที่มีเนินหรือขึ้นสะพาน เป็นการปรับสภาพร่างกายและพัฒนาทักษะในการปั่นเบื้องต้น อย่าพึ่งทำอะไรเกินตัวเกินไปในระยะเริ่มต้น เพราะอาจจะทำให้ร่างกายได้รับการบาดเจ็บได้

5. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย

ควรเป็นชุดที่เป็นผ้าที่มีความกระชับและขนาดพอดีตัว เนื้อผ้ามีการระบายได้ดี และงดใส่เสื้อผ้าที่มีตะเข็บเพราะระหว่างการปั่นจะมีการขยับตัวตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีทำให้ผิวหนังมีบาดแผลได้

ดังนั้นถ้าจะต้องปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย ควรหลีกเลี่ยงเสื้อยืดทีเชิร์ต แนะนำเป็นเสื้อเจอร์ซี่สำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ เพราะถูกออกแบบมาให้ระบายอาการได้ดี แถมด้านหลังยังมีกระเป๋าสำหรับใส่ของได้ด้วย

6. ปั่นกลางคืนต้องมีไฟให้พร้อม

จากสถิติในเวลาค่ำคืน ช่วงเวลาที่นักปั่นจักรยานประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตมากที่สุดคือช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม เมื่อต้องปั่นจักรยานในเวลากลางคืน คุณควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีสว่าง หรือชุดที่มีแถบสะท้อนแสง ที่หมวกควรมีไฟกระพริบหรือแถบสะท้อนแสงติดอยู่ และที่สำคัญที่ตัวจักรยาน ไฟสัญญาณด้านท้ายจะต้องเป็นไฟกระพริบสีแดง ส่วนด้านหน้าเป็นไฟส่องสว่างสีขาวที่ให้คุณมองทัศนวิสัยบนท้องถนนได้ชัดเจน การทำให้ตัวคุณและจักรยานสามารถมองสังเกตในที่มืด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปั่นจักรยานในเวลากลางคืน

7. มีสติและเคารพกฎจราจรเมื่อขี่บนท้องถนน

เมื่อปั่นจักรยานบนท้องถนนต้องอย่าลืมว่าเราใช้เส้นทางร่วมอยู่กับพาหนะอื่น ทั้งรถยนต์ รถสาธารณะ มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ เราควรเรียนรู้การใช้สัญญาณมือในการสื่อสารให้สัญญาณกับคนที่ปั่นตามหรือรถคันอื่นๆ รวมถึงควรมีทักษะในการช่างสังเกต ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวถนน, รถยนต์ที่วิ่งเข้ามาใกล้, คนที่กำลังจะข้ามถนน ฯลฯ

และควรรักษากฎจราจรเหมือนกับผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ไม่ขับย้อนศร ไม่ปั่นในเลนขวาที่ไว้สำหรับรถที่ใช้ความเร็ว, ไม่ฝ่าไฟแดง

8. ระวังเป็นพิเศษเมื่อขี่บนถนนช่วงที่รถหนาแน่น

เป็นสิ่งที่คุณต้องระวังเป็นอย่างมาก คำว่ารถหนาแน่นนั้นรวมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรถติดจอดนิ่ง หรือบนถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งด้วยความเร็วแต่มีจำนวนมาก ควรปั่นชิดอยู่ในเลนซ้ายเสมอไม่ว่าคุณจะปั่นมาคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ตาม และให้รถยนต์ที่วิ่งอยู่ผ่านไปก่อนเสมอ ถ้าคุณต้องปั่นบนถนนที่มีรถวิ่งอยู่เป็นประจำก็อาจจะหากระจกมองหลังมาติดตั้งที่แฮนด์บ้างก็ได้

ถ้าคุณยังไม่มีความชำนาญในการปั่นจักรยาน ทั้งเรื่องการทรงตัวและการใช้เบรค ไม่แนะนำอย่างยิ่งที่จะให้ปั่นบนถนนที่มีรถหนาแน่น เพราะคุณจะพลาดและเกิดอุบัติเหตุเอาได้ง่ายๆ

9. เวลาเบรคให้เบรคพร้อมกันทั้งหน้าและหลัง

ในการเบรคไม่ว่าจะปั่นด้วยความเร็วปกติเพื่อชะลอหรือว่าเบรคเพื่อหยุดกระทันหัน ควรเบรคด้วยการบีบก้านเบรคพร้อมกันทั้งหน้าและหลังเพื่อไม่ให้เสียการทรงตัว ในกรณีที่เบรคกระทันหันให้โยกสะโพกไปทางด้านหลังด้วยเพื่อไม่ให้รถเสียหลัก

สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือการปั่นจักรยานปล่อยมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบมือถือขึ้นมาในระหว่างที่กำลังปั่นอยู่ เพราะหากจังหวะนั้นเกิดเหตุที่ต้องเบรคกระทันหัน มือข้างที่คุณจับแฮนด์อยู่นั้นจะบีบเบรคเพียงข้างเดียว และแน่นอนว่าคนจะล้มกลิ้งลงไปกองกับถนนในทันที

10. ใช้เกียร์ให้ถูกต้อง

การปั่นที่ดีก็ควรเลือกเปลี่ยนเกียร์ในการปั่นให้เหมาะสมกับความเร็วด้วย หลีกเลี่ยงการปั่นจักรยานในเกียร์สูงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

ควรฝึกการเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ต่ำมาเป็นเกียร์สูงตามความเร็วจนชำนาญ เพราะจะช่วยลดแรงกดบริเวณเข่าได้ รอบขาที่เหมาะสมสำหรับการปั่นปกติอยู่ที่ 60-80 รอบต่อนาที ถ้าสำหรับการปั่นแข่งขันจะอยู่ในระยะ 80-100 รอบต่อนาที

11. ผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธี

เวลาที่ปั่นจักรยานขึ้นเนินหรือขึ้นเขาต่อเนื่องแล้วเมื่อถึงจังหวะลงเขา อย่าปล่อยรถไหลลงโดยที่ไม่ปั่นเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะในเวลาที่เราปั่นจักรยานขึ้นเขาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือใช้กำลังขามาก ร่างกายจะผลิตกรดที่เรียกว่า กรดแลคติก ซึ่งมันจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออักเสบได้

หลายคนคิดว่าการปล่อยรถไหลตอนลงเนินโดยไม่ต้องปั่นอะไรเป็นการพักกล้ามเนื้อ แต่ความเป็นจริงแล้ว การปั่นโดยที่ออกแรงเบาๆ ระหว่างที่ลงเนินนั้นเป็นวิธีที่จะช่วยลดกรดแลคติกที่อยู่ในกล้ามเนื้อลงไปได้เป็นอย่างดี

12. เปลี่ยนท่าบ้างก็ได้

สาเหตุหลักของการปั่นจักรยานแล้วมีอาการเมื่อยมือ, แขน, ขา และฝ่าเท้า นั่นคือการปั่นจักรยานอยู่ในท่าเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นระหว่างที่ปั่นให้ลองเปลี่ยนท่าและอิริยาบถต่างๆ ดูบ้างเช่น ขยับตำแหน่งและองศาการจับแฮนด์และลำตัว ขยับคอและตำแหน่งที่นั่งบนอาน ผ่อนคลายการบีบมือที่แฮนด์ไม่ให้แน่นเกินไป

สำหรับการปั่นเสือหมอบ ให้หลีกเลี่ยงการจับแฮนด์ในช่วงที่เป็นส่วนโค้ง (bend) ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการมือชาระหว่างที่ขี่อยู่ได้

ทั้งหมดนี้เป็นเกรดเล็กๆ น้อยๆ เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ปั่นจักรยานควรทราบและนำไปใช้ในการปั่น เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุทั้งจากการขี่บนท้องถนน และการบาดเจ็บจากการปั่นที่ไม่ถูกต้อง อย่าลืมเอาไปใช้กันนะครับ

ที่มา : Berkeley Wellness

Where workout @ ... Episode 05 DOIKHAM CIRCUIT Chiangmai

Where workout @ ... Episode 04 Krisdadoi Resort Chiangmai road

พื้นฐานการตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Sony Vegas

การจะทำ Video Marketing ด้วยตัวเอง สิ่งที่สำคัญ คือ ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ Content ถ้าเนื้อหาเราดีแต่เราไม่สามารถนำเสนอผลงานให้ผู้ชมเข้าใจความหมายได้ ก็อาจจะทำให้การทำ Video Marketing ไม่ประสบความสำเร็จได้ จากบทที่แล้วที่พูดถึงการเลือกโปรแกรมสำหรับตัดต่อวีดีโอที่เหมาะสม ผมได้เลือกใช้โปรแกรม Sony Vegas เพราะว่ามีเครื่องมือการใช้งานครบถ้วน ที่สำคัญ คือ ไม่กินแรงเครื่องครับ สเปคคอมแค่ CPU แบบDual Core ก็สามารถตัดต่อวีดีโอแบบ FULL HD ได้ครับ

ในบทนี้จะพูดถึงพื้นฐานการตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Sony Vegas โดยจะทำความรู้จักหน้าตาของโปรแกรม เครื่องมือการใช้งาน คำสั่งพื้นฐานเบื้องต้น เมื่อเพื่อนๆได้ศึกษาวีดีโอบทนี้จบแล้ว จะสามารถทำการตัดต่อวีดีโอแบบพื้นฐานได้ครับ

ทำได้จริงๆ กระโดดเชือกวันละ 7 พันครั้ง สาวลดน้ำหนักจาก 97 โลเหลือ 54 โล

ทำได้จริงๆ กระโดดเชือกวันละ 7 พันครั้ง สาวลดน้ำหนักจาก 97 โลเหลือ 54 โล

 กำลังเป็นที่ฮือฮาในเว็บไซต์พันทิป สำหรับสาวรายนี้ ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์พันทิปเลขที่ 1998528 โพสต์เรื่องการลดน้ำหนักอย่างน่าทึ่งจริงๆ

 เธอลดน้ำหนักจาก 97 กิโลกัมลงมาเหลือแค่ 54 กิโลกรัมด้วยวิธีออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก ฯลฯ ไปพร้อมๆกับการควบคุมอาหาร ซึ่งได้ผลเกินคาด หุ่นเพรียวขึ้นมาทันตาเห็น ที่สำคัญไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องผ่าตัด 

 โดยเจ้าของกระทู้ระบุว่า 

 "...หลังจากอ่านหลายๆกระทู้เกี่ยวกับเรื่องราวการลดความอ้วนเลยอยากจะร่วมแบ่งปันเรื่องราวการลดน้ำหนักของเราให้กับคนอื่นๆบ้างเผื่อจะสร้างกำลังใจให้กับคนที่ต้องการลดความอ้วน .....เริ่มเลยนะคะ

 ตั้งแต่เกิดมาก็เป็นเด็กสมบูรณ์มากเลย คืออ้วนตั้งแต่เด็กเลยค่ะ 555 

 ตอนอยู่ชั้นประถมก็อ้วน น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานมาตลอด 

 มัธยมก็อ้วน เราจะมีความสุขกับกินมาก เจอเพื่อนๆ ก็ชวนกันไปกิน กินอะไรก็ต้องพิเศษสุดๆ ไม่เคยออกกำลังกายเลย กินๆนอนๆ ช่วงนี้กินวันละ 5-6 มื้อได้ ดึกๆเราก็จะทำตัวคล้ายโจร แอบย่องมาในครัวหาอะไรกินประจำ เพราะกลัวแม่รู้

  

 

 พ่อแม่และญาติๆเวลาเจอเราก็จะคอยว่าตลอดว่าทำไมปล่อยให้อ้วนแบบนี้ให้ลดความอ้วนบ้างล่ะจ้างบ้างล่ะ ช่วงนั้นเราไม่สนใจ เราออกแนวรำคาญด้วย บางทีญาติมาเราก็จะหลบๆไม่อยากเจอ ไม่อยากฟังเค้าบ่นเค้าว่า ใครมาพูดเรื่องลดน้ำหนักนี่จะโกรธและหงุดหงิดสุดๆความคิดเรื่องลดน้ำหนักไม่อยู่ในสมองเลย คิดอย่างเดียวพรุ่งนี้กินอะไรดีน๊าาาาาา 5555 ช่วงนั้นน้ำหนักพุ่งปรี้ดสุดที่ชั่งได้ที่ 97 kg อีก 3 โลจะ 100 แล้ว

 

 เริ่มเข้ามหาลัยก็อ้วน 5555 เราย้ายจากบ้านต่างจังหวัดมาเรียนที่กทม ก็จะพักหอพักกับเพื่อน รูมเมทเราก็ตัวเล็กมาก555 กินข้าวน้อยมาก พฤติกรรมการกินของเราค่อยๆปรับเปลี่ยนเหลือวันละ 3 มื้อ หลังๆก็เหลือวันละ2มื้อ ตามเพื่อน ตอนนี้เริ่มรู้สึกนิดนึงเพราะเจอแต่คนผอมๆบางๆใส่ชุดนักศึกษาน่ารักๆหุ่นดีๆทั้งนั้น อารมณ์อยากสวย และประกอบกับเวลาเจอใครๆก็จะเริ่มทักลดความอ้วนสิ รับรองเธอสวยมาก หน้าตาก็ดีทำไมปล่อยตัวให้อ้วนแบบนี้ เสียดายหน้าตา ...... ต่างๆนานา ก็เก็บมาคิดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

 ตอนประมาณปี3อยู่ดีๆเพื่อนในกลุ่มก็พาไปเล่นเกมส์ออนไลน์ตอนนั้นติดเกมส์กันมากไปนั่งเล่นที่ร้านเนตกันทำให้เราไม่ห่วงเรื่องกินข้าวเท่าไหร่ ถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็ไปนั่งเล่นแต่เช้าจนถึงตี2ตี3 ประจำ หรือถ้าติดลมก็โดดเรียน  ช่วงนั้นเลยผอมลงแบบไม่ตั้งใจ ก็ลงไปรวมๆ5กิโลได้ 

 ตอนอยู่มหาลัยช่วงเริ่มหนัก 70 กว่า ก็มีผู้ชายมาจีบ 2 คน 

 ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีเลยสักคนนน 5555 รู้สึกตัวเบาๆ เฮ้ยเราอ้วนแบบนี้มีผู้ชายมาชอบได้ไงเนี่ย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ไม่ได้คบ สนใจแต่เรื่องกิน กับเรื่องเรียน และก็เรื่องเกมส์ เท่านั้น ก็ทำให้พบข้อดีของการอ้วนขณะวัยรุ่น คือ ทำให้เราได้ผลการเรียนดีเนื่องจากไม่มีเรื่องความรัก ไม่มีเรื่องเที่ยว เข้ามาเกี่ยวมั้ง 5555

 เข้าสู่วัยทำงาน พอเรียนจบ ก็ออกไปอยู่คอนโดใกล้ที่ทำงานแห่งแรก ตอนนั้นอยู่ดีๆก็รู้สึกเหงา อยากมีแฟน โดดเดี่ยว จึงเป็นสาเหตุให้เริ่มคิดลดความอ้วนแบบจริงจัง เพราะ อยากสวย!!!!! 55555. น้ำหนักตอนนั้นน่าจะประมาณ 70ช่วงนั้นมีความมุ่งมั่นมาก อดข้าว วันนึงกินน้อยมาก ไม่กินแป้ง เพื่อนที่ทำงานเราก็ไม่สนิทมาก ก็เลยไม่ค่อยไปกินข้าวกับเค้า ช่วงนั้นทำอยู่ 1 ปี ก็ลดไปได้ประมาณ 5กิโล

 เปลี่ยนงานคะบริษัทใหม่เราสนิทกะพี่ๆทุกคนงานสนุก เพื่อนร่วมงานน่ารัก ทีนี้ชีวิตแฮปปี้มากคะ อ่อช่วงนี้เริ่มคบผู้ชายคนแรก 555 ช่วงนี้กลับมากินเก่งในช่วงแรกๆ น้ำหนักก็ไม่ลงแถมขึ้นมาด้วยแต่ก็ขึ้นไม่มาก เพราะยังควบคุมบ้าง พอช่วงหลังไม่ได้และเริ่มรู้สึกอยากลดจริงจังมาก ก็เริ่มหาวิธีต่างๆนาๆ ครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นปฏิบัติการลดความอ้วนแบบจริงจังที่สุด 

 เราออกกำลังกายและควบคุมอาหารถ้าเป็นวันทำงานเราจะตื่นเช้าไปวิ่งวันละ1ชมเย็นบางวันก็วิ่ง บางวันก็ว่ายน้ำ วันเสาร์อาทิตย์ ตอนเช้าไปวิ่ง วิ่งเสดว่ายน้ำต่อ บางทีก็ไปต่อที่ฟิตเนส วันนึงออกกำลังกาย3ชมได้ 555 กินข้าวเหลือวันละ2มื้อ แต่มีช่วงนึงกินแต่น้ำเต้าหู้ เราชอบกินมาก เอาหวานน้อยใส่เครื่อง แช่ตู้เย็นไว้ วันนึงกิน3-4ถุง เราลองไม่กินอะไรเลย กินแต่น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องอาทิตย์นึง ลดไป3-4กิโลเลยนะ แต่พอกลับมากินข้าวก็กลับมาน้ำหนักเท่าเดิม 5555 ก็เลยเลือกที่จะออกกำลังกายกับควบคุมอาหารควบคู่กันไป

 หลังจากที่ลาออกจากที่ทำงานก็ทำธุรกิจส่วนตัวก็เลยมีเวลาไปออกกำลังกายมากขึ้นเราเป็นคนเบื่อง่ายก็เลยจะหากิจกรรมการออกกำลังกายเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น ต่อยมวย วิ่ง ว่ายน้ำ เข้าฟิตเนส ปั่นจักรยาน เล่นเวท แต่สิ่งที่ง่ายสุดและบ่อยสุด คือ กระโดดเชือกคะ เรากระโดดเชือกตอนเช้า 3,500 ครั้ง ตอนเย็น 3,500 ครั้ง แต่ถ้าวันไหนไม่ว่างก็จะกระโดดแค่ 3,500 ครั้ง 

 เราเป็นคนชอบทานมาก ฉะนั้นเราจึงต้องพยายามออกกำลังกายให้มากๆเพื่อไม่ให้มันกลับไปอ้วน  วันไหนกินอะไรเข้าไปเยอะ ก็จะออกกำลังกายหนักกว่าปกติ

 ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่หุ่นดีเป๊ะแต่เราก็ภูมิใจที่เราลดลงมาได้ขนาดนี้.ตอนนี้เราก็กำลังตั้งใจจะลดให้ได้อีกสัก5กิโลและพยายามจะสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง (สงสัยคงต้องเพิ่มการกระโดดเชือกให้เป็น 35,000 ครั้ง/วัน 5555) 

 เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ"ความตั้งใจ" เราต้องคิดว่าเราทำได้ และ ตั้งใจ ทำมัน แค่นั้นเอง และเราก็จะมีความสุขกับการออกกำลังกายและการกินควบคู่กันไปได้

 สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะเราเชื่อว่าทุกคนทำได้

 

 ปล.เราไม่ได้บอกว่าวิธีเราถูกต้องนะคะ..."

ขอบคุณ:สมาชิกเว็บไซต์พันทิปเลขที่ 1998528

Where workout @ ... Episode 04 Krisdadoi Resort Chiangmai road

21 01 2558
Where workout @ ...
Episode 04  Krisdadoi Resort Chiangmai road
ถนนเส้นทางไป กฤษดาดอย เชียงใหม่

วันนี้ปั่นซ้อมเส้นทางขึ้นเขาเล็กน้อยเส้นทางเดิมๆพบเจอเพื่อนๆหลากหลายสุขภาพดีกันทั้งนั้น ช่วงขากลับมีแอบเร็วกันนิดหนึ่งพอไหวอยู่ครับ ผมละเกือบไม่รอด
ติดต่อได้ที่
www.facebook.com/veravichmail
www.youtube.com/user/kaiveravich

Pro Bike

เปลี่ยนลมในยาง ลดน้ำหนักได้กี่กรัม?

เปลี่ยนลมในยาง ลดน้ำหนักได้กี่กรัม?

ฮาร์ดคอร์!! สูตรลดน้ำหนักธรรมชาติ ไม่พึ่งยา 3 วันหาย 4 กก.

ฮาร์ดคอร์!! สูตรลดน้ำหนักธรรมชาติ ไม่พึ่งยา 3 วันหาย 4 กก.

เชื่อว่าหลายๆคนกำลังมองหาสูตรลดความอ้วนที่เหมาะกับตัวเองอยู่ ต่างก็คว้านหาว่าสูตรที่จะทำให้เรากลับมาผอมเพียวบางร่างน้อยเหมือนแต่ก่อนมันทำอย่างไรบ้าง วันนี้ไปเจอสูตรจากเว็บไซค์ meekhao มาค่ะ เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนลองกลับไปทำกันดูค่ะว่า ได้ผลอย่างไรกันบ้าง แต่สูตรมันหนักหน่อย ต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างสูง 

สูตรลดน้ำหนักนี้เป็นสูตรลดน้ำหนักของคุณ ตุ๊ก กชพรรณ อนันต์ชล แม่บ้านลูก3  ที่ไม่สนับสนุนให้ทุกคนทานยาลดความอ้วน เธอได้เผยวิธีการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ ที่ไม่ต้องเอาชีวิตและเงินทางไปเสี่ยง

ทั้งนี้นะคะสูตรนี้คุณตุ๊กแนะนำว่า ให้ทำ 3 วันต่อเนื่อง จากนั้นก็หยุดรับประทานอาหารบบแกติ แล้วเว้นระยะมาทำอีก3 วันต่อเนื่องอีกรอบ เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดกานโยโย่และจะทำให้กระเพาะเราเล็กลง และผลลัพธ์ที่ได้เธอบอกว่า น้ำหนักของเธอลงถึง 4 กิโล ภายใน 3 วันเลย

 วันที่ 1 อาหารเช้า
ชา/กาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล หรือ น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน ผลไม้ 1 อย่าง ส่วน อาหารกลางวัน เริ่มที่ชา กาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล หรือ น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ปลานึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน และ ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน*

อาหารกลางวัน 
เริ่มที่ น้ำส้ม หรือ  ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ปลานึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน และ ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน*


อาหารเย็น
น้ำส้ม ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน เนื้อไม่ติดมัน ย่างหรือนึ่ง ห้ามใช้น้ำมัน


 วันที่ 2 อาหารเช้า
น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc) ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ฟอง ผลไม้


อาหารกลางวัน 
น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ผัก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน ผลไม้

อาหารเย็น 
น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc) ปลานึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน ผัก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน


 วันที่ 3 อาหารเช้า
น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc) ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ผลไม้ โยเกิร์ต ส่วน อาหารกลางวันน้ำส้มขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟองผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน

อาหารกลางวัน 
น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ผัก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน ผลไม้

อาหารเย็น 
น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc) ปลา/เนื้อนึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือ ส้มตำผักล้วน 

โดยคุณตุ๊กเล่าว่า “สูตรนี้มันลงจริง เป็นสูตรของคนอื่น ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะว่าจะทำให้น้ำหนักลงจริง แต่ภายใน3วัน ก็ทำให้เราเห็นผล ช่วงแรกทรมานมากเพราะหิว แต่พอทำๆไป ก็ชิน ตอนแรกอ้วนมาก 75 กก. ลงเหลือ 71 กก. ลงไปแล้ว 4 กก. แค่ 3 วัน ตอนนี้กำลังจะลงไปอีก กะให้แตะเลข 6 ซึ่งไม่ต้องไปพึ่งยาลดความอ้วนเลย”

สูตรนี้อาจจะหนักในวันแรกๆๆ ต้องใช้ความตั้งใจ อดทน พยายาม และที่สำคัญอยู่ที่ใจค่ะ   ยังไงเพื่อนสามารถปรับและพลิกแพลงสูตรให้เหมาะกับร่างกายและการทำงานของเพื่อนๆได้นะคะ แต่เน้นเป็น ผัก ผลไม้ ต้ม ยำ นึ่ง และที่สำคัญคือ ไม่ต้องใส่น้ำมันค่ะ  หรือเพื่อนๆอาจจะหันมาทานอาหารคลีนทุกมื้อก็ได้นะคะ ไม่ต้องอด กินทุกมื้อเป็นปกติ แต่อย่างที่บอกเน้นผัก ...สุดท้ายขอให้ทุกคนโชคดีและหุ่นดีสุขภาพดีทุกคนนะคะ


ที่มา : tlcthai.com, meekhao.com

Where workout @ Episode 03 SanPaTong Irrigation Canal road

20 01 2558
Where workout
@
Episode 03 SanPaTong Irrigation Canal road

ตอนนี้เป็นการออกสำรวจถนนเลียบคลองชลประทานเส้นหนองควาย-สันป่าตอง (คันคลองเซอร์กิต ชาวนักปั่นเชียงใหม่รู้จักดี)มีถนนอยู่ช่วงหนึ่งได้ทำการซ่อมแซ่มถนนครับ ตอนแรกว่าจะถ่ายวีดีโอมาให้ได้สุดถนนแต่เข้าถนนที่ซ่อมบำรุงเท่านั้นละ กล้องหลุดครับ .....

อุปกรณ์ SJ4000WIFI

ติดต่อได้ที่
www.facebook.com/veravichmail
www.youtube.com/user/kaiveravich

ทดสอบ กล้อง SJ4000 wifi

มาแล้ว คลิบแรก ทดสอบ กล้อง SJ4000 wifi เซฟมาแค่ 720P


กล้อง Action Camera SJ4000 รุ่นใหม่ชัดสุด เลนส์มุมกว้าง 170 องศา มีจอแสดงผลขนาด 1.5 นิ้ว วีดีโอความละเอียดสูงสุด Full-HD 1080P ภาพนิ่ง 12 ล้านพิกเซล คมชัดด้วยหน่วยประมวลผล Chipset Novatek 96650 บวกด้วยเทคโนโลยี WDR ทำให้บันทึกภาพได้คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน แบตเตอรี่ขนาด 900 mAh ทำให้ถ่ายได้ยาวนานกว่า 2 ชั่วโมง ที่ ความละเอียด 1080P -   มีจำหน่าย 2 สี ขาว / ดำ  

Action Camera SJ4000 มาพร้อมกรอบกันน้ำที่ ลงน้ำได้ลึกกว่า 30 เมตร  อุปกรณ์ภายในกล่องครบครันไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มเติม ( ดูภาพอุปกรณ์ที่อยู่ในกล่องได้จากด้านล่าง ) เช่น

Waterproof Case , Bicycle Stand , Base 1 , Base 2 , Clip , Fixed Base , Switch Support 1 , Switch Support 2 , Switch Support 3 , Adapter , Helmet Base , Bandage , Ribbon , 3M Adhesive Tape , Wire Rope , Data Wire , Charger , Manual , Wiper

คุณสมบัติของสินค้าเบื้องต้น :
- เลนส์มุมกว้าง ขนาด 170 องศา HD Wide-Angle Lens
- ประมวลผลด้วยชิพ Novatek 96650 ทำให้มีความคมชัดสูงสุดกว่ากล้อง Action Camera ทั่วไป
- มีโหมด HDR ( WDR ) ทำให้บันทึกได้ทั้งกลางวันและพื้นที่ ที่มีแสงน้อย
- วีดีโอความละเอียดสูงสุด 1080P ( 1920 x 1080 ) ที่ 30 FPS
- ภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล ( 4032 x 3024 )
- แบตเตอรี่ 3.7V ขนาด 900 mAh สามารถใช้งานได้นานกว่า 2 ชั่วโมง
- ใส่เมมโมรี่สูงสุดได้ถึง 32 Gb ( Optional )
- มีหน้าจอสี LCD ขนาด 1.5 นิ้ว ดูวีดีโอหรือภาพนิ่งได้ทันที
- มี Waterproof Housing สามารถดำน้ำที่ความลึกสูงสุดถึง 30 เมตร

General
Model	SJ4000
Color	Black / White
Material	ABS plastics
Quantity	1 Piece
Image sensor
Image Sensor	CMOS
Image Sensor Size	2/3 Inch
Lens
Anti-Shake	Yes
Focal Distance	No cm
Focusing Range	No
Optical Zoom	No
Digital Zoom	4X
Built-in Speedlite	No
Speedlite Range	No
Aperture	No
Aperture Range	NO
Wide Angle	170-degree A + high-definition wide-angle lens
Shooting
Effective Pixels	12.0 MP
Max. Pixels	60 DPI
Images	JPEG
Still Image Resolution	4032 x 3024 (12M) / 3648 x 2736 (10M) / 3264 x 2448 (8M) / 1296 x 960 (1.3M)
Video	MOV
Video Resolution	1080P (1920 x 1080) 30FPS ; 720P (1280 x 720) 60FPS ; VGA (848 x 480) 60FPS ; QVGA (640 x 480) 60FPS
Video Frame Rate	30 , 60
Audio System	Stereo
Cycle Record	Yes
Exposure
ISO	No
Exposure Compensation	-2 ; -1.7 ; -1.3 ; -1 ; -0.7 ; -0.3 ; 0 ; +0.3 ; +0.7 ; +1 ; +1.3 ; +1.7 ; +2.0
Scene Mode	Auto
White Balance Mode	Auto
Storage
Supports Card Type	TF
Supports Max. Capacity	32 GB
Built-in Memory	No
I/O Interface
Input Interface	Mini USB
Output Interface	Mini HDMI , Mini USB
Display
LCD Screen	Yes
Screen Type	TFT
Screen Size	1.5 inch
Screen Resolution	800 x 600
Battery
Battery included or not	Yes
Battery Actual Capacity	900 mAh
Nominal Capacity	950 mAh
Battery Type	Li-ion battery
Battery Quantity	1 Piece
Voltage	3.7V
Battery Charging Time	3~4 hours
Low Battery Alerts	Yes
Other Features
Water Resistant	Water Resistant 3 ATM or 30 m
Supported Languages	Japanese , English , French , German , Simplified Chinese , Russian , Spanish , Italian , Korean
Dimensions & Weight
Dimensions	3.35 in x 1.85 in x 3.54 in ( 8.5 cm x 4.7 cm x 9 cm )
Weight	22.01 oz ( 624 g )

Time Lapse Video คืออะไร ?

Time Lapse Video คืออะไร ?

                ทามแล็ปวิดีโอ คือวิดีโอที่ย่นย่อระยะเวลา สิ่งที่มีการดำเนินการไปอย่างช้าๆ โดยนำเพิ่มความเร็ว ให้เร็วขึ้น เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในเวลาอันสั้นสำหรับการรับชม เช่น การถ่ายภาพดอกไม้ผลิบานอย่างช้าๆ ทำให้เห็นภาพดอกไม้บานในระยะเวลาอันสั้นได้รวดเร็วขึ้น  ทามแล็ปวิดีโอ เป็นเทคนิคที่ทำให้เราสามารถศึกษารายละเอียดของกระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ เกินกว่าที่ตาคนเราจะสังเกตเห็นได้ เช่น  การเคลื่อนไหวของพืช เช่น การบาน/หุบของดอกไม้, การเลื้อยพันของไม้เถา, การงอกของเมล็ด, การเคลื่อนที่ของดาว, การเคลื่อนที่ของเมฆ, การเน่าของผลไม้, การก่อสร้าง,การเคลื่อนไหวของฝูงชน เป็นต้น

 Time-lapse ทำงานอย่างไร ? 

            ทามแล็ป คล้ายกับการกดปุ่มเดินหน้าอย่างเร็วมากเหมือนกับการกรอเทปวิดีโอเดินหน้า (Fast Forward) บนเครื่องเล่นวีดีโอหรือดีวีดี ที่สามารถย่นย่อเวลาจาก นานนับชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือ ปี ให้ย่นย่อเหลือเพียงไม่กี่วินาที หรือไม่กี่นาที 

             ทามแล็ป เป็นเทคนิคการทำภาพยนต์ ที่มีการบันทึกภาพแต่ละเฟรมในความเร็วที่น้อยกว่าการเล่นภาพยนต์มาก เมื่อเล่นภาพยนต์ ภาพที่เห็นจึงปรากฎด้วยความเร็วสูงขึ้นมาก คล้ายกับการย่นย่อเวลาให้เร็วขึ้นนั่นเอง

           ปัจจุบันเราสามารถสร้างภาพแบบทามแลปได้ง่ายขึ้นด้วยกล้องดิจิตอล หรือกล้องวิดีโอ หรือโทรศัพท์ที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่น อย่าง iPhone หรือ แทปเล็ต สมาร์ทโฟนจำพวกแอนดรอยก็สามารถหาดาวโหลด โปรแกรมมาติดตั้งในเครื่องถ่ายภาพออกมาเป็นวิดีโอ โดยไม่ต้องตัดต่อโปรแกรมแม้แต่น้อย 

 จะถ่ายภาพนิ่งมาทำ Time Lapse  video ต้องเตรียมตัวอยางไร ?

                ก่อนอื่นก็ต้องมีกล้องถ่ายภาพ มีขาตั้งกล้อง มีสายลั่นชัตเตอร์แบบตั้งเวลาได้ มีขาตั้งกล้องที่แข็งแรง และที่สำคัญต้องมีความรักในการที่จะสร้างสรรค์งาน มีเวลาในการถ่ายภาพพอสมควร เพื่อจะได้ถ่ายภาพหลายๆภาพแบบต่อเนื่องใช้ระยะเวลานาน และนำภาพมาต่อเนื่องตัดต่อบนโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ซึ่งงานที่ผ่านมาผมใช้ระยะเวลาในการถ่ายภาพ ตัดต่อ อัพวิดีโอขึ้นยูทูปประมาณ 2 วัน กับการเรียนรู้ลองผิดลองถูก 

 ต้องถ่ายภาพจำนวนกี่ภาพจึงจะนำมาทำทามแล็ปวิดีโอได้ ?

           อืม!!!! คำถามนี้เป็นคำถามที่ดี ( จะไม่ดีได้ไง ก็ชงเอง ตบเอง) แต่จริงๆ เป็นคำถามที่ผมไม่ได้เตรียมไว้ตั้งแต่ต้น ความจริงความตั้งใจของผม เกิดจากการดูวิดีโอ การถ่ายภาพแบบทามแล็ปของคนอื่น บนยูทูป แล้วอยากถ่ายบ้าง แต่ติดตรงไม่มีสายลั่นชัตเตอร์ เมื่อเดือนที่ผ่านมาไป กทม. ก็เลยแว๊บไปซื้อมาหนึ่งเส้น สายลั่นชัตเตอร์บ้าอะไร เส้นละ สี่พันเจ็ด (canon TC-80N) แต่ตั้งใจไว้แล้ว กัดฟัน เอาก็เอา พอไปซื้อแล้วถึงรู้ว่าสายลั่นชัตเตอร์แบบตั้งเวลาได้ ต้องใช้กับกล้องรุ่นโปร พอซื้อมาก็ใจตุ๋มๆ ต่อมๆ แล้วเราจะใช้ได้ไหมเนี่ย พอเปิดช่องด้านข้างของ 7 D ดูถึงรู้ว่ามีช่อง ค่อยยังชั่วหน่อย ใช้ได้ ความจริงมีรุ่นของเลี่ยนแบบจากจีน ก็ใช้ได้ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
          พอได้สายลั่นชัตเตอร์มาก็คิดว่าจะถ่ายอย่างเดียวไม่ได้วางแผนก่อน พอตอนมาตัดต่อวิดีโอถึงรู้ว่าภาพที่ถ่ายมาเป็นชั่วโมงนั้น พอทำทามแลปวิดีโอแล้วได้ระยะเวลาไม่ถึงนาที จึงต้องไปถ่ายเพิ่มเติม เพราะผมเลือกเพลงทีใส่ประกอบลงไปในภาพยาวประมาณ 5 นาที ดังนั้นเราต้องเข้าใจเรื่องเฟรมภาพและระยะเวลาก่อน
          ถ้าเราต้องการนำเสนอภาพระยะเวลา 5 นาที 1 นาทีมี 60 วินาที รวมแล้วเท่ากับ 60 วินาที ทีนี้เราต้องเข้าใจ ฟอร์แมตวิดีโอก่อนว่าจะเลือกฟอแมตไหน ระหว่า NTSC ซึ่งมี 30 ภาพต่อวินาที หรือระบบ Pal ซึ่งบ้านเราใช้ระบบนี้ ก็จะมีเฟรมเท่ากับ 25 เฟรมต่อวินาที หรือจะเลือกรูปแบบภาพยนตร์ ก็จะมี 24 เฟรมต่อวินาที
            ดังนั้นในงานนี้ต้องการความยาววิดีโอ 5 นาที ก็ต้องคำนวน
 5 นาที X 60 วินาที x 24 เฟรม ก็เท่ากับ 7200  ภาพ
 ว๊าว! เยอะจัง อย่างนี้ม่านชัตเตอร์จะพังไหมเนี่ย 

 ถ้าอย่างนั้น ต้องตั้งความละเอียดภาพเท่าไรถ้าต้องการทำวิดีโอแบบ Full High-Definition  ?

          ก่อนอื่นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า วิดีโอแบบ Full HD มีความละเอียดเท่าไร ซึ่งก็คือ 1920 X 1080 และแบบ HD 1280×720 ดังนั้นกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซลของกล้องผมถ่ายขนาด Size S(small) ยังเหลือเฟือเลย แต่ว่า jpeg s นั้นบีบอัดมากทำให้คุณภาพภาพลดลง ในงานนี้ผมจึงเลือกขนาดเป็น M กับ L ซึ่งก็คือ 9 ล้าน กับ 18 ล้านพิกเซล

จะเลือกโลเกชั่นในการถ่ายอย่างไร ?

           ผมเลือกสถานที่ถ่ายที่มีการเคลื่อนตัวของเมฆเยอะๆ เพราะดูในวิดีโอตัวอย่างแล้วสวยดี เลยเลือกใช้เลนส์วายขนาด 10-22 ของแคนนอน เนื่องจากเป็นการลองทำจึงใช้สถานที่ถ่ายแถวบ้าน เลือก ริมแม่น้ำแควน้อยบ้าง ในสวนที่บ้านบ้าง บางทีก็ที่ระเบียงบ้าน 

ตั้งค่าที่กล้องอย่างไร ?

              เป็นการลองผิดลองถูกเพื่อการเรียนรู้จริงๆ งานชิ้นนี้ ช่วงแรกที่ผมลองถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ริมแม่น้ำแควน้อย ผมตั้งค่า ISO 100 Auto Aperture โดยตั้งรูรับแสงไว้ที่ F 8 ให้ความเร็วชัตเตอร์เปลี่ยนไปตามค่าแสง เพราะถ่ายบนขาตั้งกล้อง ปรากฏว่าได้สภาพแสงที่เปลี่ยนไป แต่กล้องก็ยังรับแสงได้ปกติ ถึงแม้แสงจะมืดลง ภาพในกล้องก็ไม่มืดซึ่งน่าจะผิดคอนเซ็ปที่ต้องการให้เห็นสภาพแสงค่อยๆ มืดลง ส่วนภาพในสวนช่วงกลางวิดีโอ ผมตั้งแบบแมนนวล โดยวัดแสงนอมอล แล้วตั้งค่าระยะห่างระหว่างแต่ละภาพที่ 15 วินาทีบ้าง 20 วินาทีบ้าง โดยตั้งทิ้งไว้ประมาณ 1 ชัวโมง จะเห็นได้ว่าบางภาพเจ้าตัวแสบวิ่งมาเล่นกับกล้อง บังหน้ากล้อง ยกมือสองนิ้วบ้าง ตอนแรกก็ว่าเค้าว่ามาทำงานเราเสีย แต่ก็คิดว่าถ้าอย่างนั้นจับใส่ไปซะเลยดีกว่า แปลกดี และการที่ตั้งค่าแบบแมนนวล บางช่วงมีเมฆมาบังแสงมืด ภาพก็จะมืดตามไปด้วย ดังนั้นพอสรุปได้ว่า ถ้าต้องการถ่ายเพื่อให้เห็นสภาพแสงที่เปลี่ยนไป ก็ควรจะตั้งค่าแบบแมนนวล

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.gotoknow.org/posts/506741

เกมส์ระดับตำนาน Might & Magic Heroes

เกมส์ระดับตำนาน Might & Magic Heroes 

ตอนนี้ เป็นระบบที่เล่นได้ผ่านหน้าเว็บแล้ว ณ ตอนนี้ผมเพิ่งได้ลองเล่น ใครที่เคยเล่นเวอร์ชั่น PC มาก่อนน่าจะสนใจนะครับ
หาเล่นได้ที่ http://clb.heroes-online.com/en-US

ชมคลิปตัวอย่างแล้วไปลองเล่นกัน

ทำไม ?...ต้องใส่รองเท้าจักรยาน !!

ทำไม ?...ต้องใส่รองเท้าจักรยาน !!

รองเท้าสำหรับใช้ใส่ปั่นจักรยานนั้นได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้งานร่วมกับบันไดที่ออกแบบมาสำหรับเพื่อให้ล๊อคกับรองเท้าหรือที่เราเรียกว่าบันไดคลิปเลส Clipless เพื่อช่วยให้การปั่นจักรยานมีประสิทธิภาพดีขึ้น ตัวรองเท้าอาจทำจากหนังหรือผ้าที่มีความทนทานกับแรงดึงหรือบิดตัวสูงและทนทานต่อการขีดข่วน

รองเท้าจักรยานที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีนั้นควรที่จะสวมใส่กระชับ สบาย และมีการระบายอากาศที่ดีเนื่องจากในการปั่นแต่ละครั้งอาจต้องใช้เวลา1-2 ชั่วโมง หรือบางครั้งอาจนานเกินกว่านี้

รองเท้าที่ใส่สบายและระบายอากาศได้ดีจะช่วยให้การปั่นจักรยานนั้นสนุกและปั่นได้ยาวนานขึ้น พื้นของรองเท้าจักรยานนั้นได้ถูกออกแบบให้มีความแข็งกว่ารองเท้าที่เราใช้วิ่งหรือเดินในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไปเพื่อให้อุ้งเท้ามีการขยับตัวที่น้อยลงซึ่งช่วยลดสาเหตุของการเกิดตะคริวที่บริเวณอุ้งเท้า อีกทั้งการถ่ายทอดกำลังสู่บันไดที่มีประสิทธิ์ภาพที่สุดคือให้แกนบันไดอยู่ใกล้กับฝ่าเท้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

Cr. : Probike Coltd